หลายคนก็เกิดคำถามว่าธุรกิจเครือข่าย Happy2pays หลอกลวงหรือปล่าว? ดิฉันคิดว่ามันเป็นคำถามยอดฮิตของคนส่วนใหญ่เลยก็ว่าได้นะคะ ถ้าคนจะเริ่มตัดสินใจทำอะไร โดยเฉพาะ ธุรกิจเครือข่าย คุณคงจะปฎิเสธไม่ได้ว่า ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงกลัวหลอกลวง เพราะ
1. คุณกลัวที่จะเสียเงิน เพราะว่ามันอาจจะเป็นก้อนที่สำคัญ สำหรับคุณ
2. ข่าวด้านลบจากธุรกิจเครือข่าย คุณคงไม่ปฎิเสธว่า ไม่ว่าจะหันไปทางไหน หรือรอบข้างของคุณ ทุกคนจะมีอคติต่อธุรกิจเครือข่าย ว่าเป็นธุรกิจที่หลอกลวง แม้แต่สื่อทางโทรทัศน์ก็ยังให้แง่ในด้านลบ
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นล่ะค่ะ ส่วนตัวคิดว่ามันมาจากหลายองค์ประกอบล่ะค่ะ
1. ผู้ที่เคยทำธุรกิจเครือข่าย เคยล้มเหลวกับมัน ผิดหวังอย่างสาหัส และไม่กล้าเปิดใจให้กับธุรกิจนี้อีก
อย่างอันนี้มันมีหลายองค์ประกอบค่ะ ขอแยกเป็นหลายกรณีนะค่ะ
กรณีที่ 1 ล้มเหลวกับธุรกิจเครือข่ายเพราะตัวคุณเอง
ทำไมล่ะคะ?? เพราะว่าคุณไม่ตั้งใจจริง ไม่อดทนพอไงล่ะคะ บางคนสมัครเข้ามา พอทำไปไม่กี่เดือนก็เลิกทำ แล้วอ้างเหตุผลนู้น นู้นนี่ คุณลองถามตัวเองก่อนว่า คุณตั้งใจพอหรือยัง พยายามพอหรือยัง คุณมีความอดทนอดกลั้นแค่ไหน ความสำเร็จทุกอย่างมันได้มาด้วยความพยายามและอดทนทั้งนั้น รวมถึงเราต้องมีวินัยในตัวเอง มีความสม่ำเสมอ เสมอต้นเสมอปลายด้วยนะคะ ไม่มีงานใดที่ไม่มีความพยายาม อดทน และตั้งใจจริง แล้วจะประสบความสำเร็จหรอกค่ะ จริงไหม???
พอเราล้มเหลวด้วยตัวเองแล้ว แล้วเป็นไงต่อ???
ก็แน่นอนนิคะ มันก็เลยกลายเป็นด้านลบของธุรกิจเครือข่ายไป เพราะไม่มีใครโทษตัวเองหรอกค่ะ คนส่วนใหญ่มักจะโทษคนอื่นก่อนเสมอ หรือบริษัทก่อนว่าไม่ดีอย่างนั้น ไม่ดีอย่างนี้
กรณีที่ 2 ล้มเหลวเพราะคนอื่น
คุณปฎิเสธ ไม่ได้ว่าข้อนี้ก็มีส่วนสำคัญ เพราะเนื่องจากว่าเราฟังด้านลบจากคนอื่นมากเกิดไป ไม่ว่าในขณะที่เราทำธุรกิจเครือข่ายไปแล้ว หรือยังไม่ได้เริ่มทำ เราฟังเสียงจากคนรอบข้างคนอื่น จนทำให้เราท้อ หมดกำลังใจ และลืมพิสูจน์ด้วยตัวเราเอง สุดท้ายเราก็เอาสิ่งที่เราได้ยินจากคนอื่นมาบอกต่อไป
อีกประเด็นหนึ่ง มีมิจฉาชีพที่จ้องมาหวังผลประโยชน์จากธุรกิจเครือข่ายนี้ มันเป็นธรรมดาของโลกค่ะ ไม่ว่าเราจะทำอะไร อยู่ที่ไหน ก็มีมิจฉาชีพจ้องอยู่แล้ว ไม่ใช้แค่ธุรกิจเรือข่ายอย่างเดียวแหละค่ะ ขอแบบว่า ถ้าเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เพราะบริษัทค่ะ แต่เพราะคนเลวนั้นเอง
กรณีที่ 3 ล้มเหลวเพราะระบบการทำงาน
ทำไมอะค่ะ? ถ้าให้ดิฉันลองเปรียบเทียบธุรกิจเครือข่ายเปรียบเหมือนร้านอาหารต่างๆ พอจะนึกง่ายหน่อยใช่ไหมคะ เราจะเห็นว่าร้านอาหารบางแห่ง ทำไมขายดีจัง? ร้านอาหารบางแห่ง ทำไมไม่มีคนเลย จนกระทั้งปิดกิจการไป ใช่ค่ะ! มันขึ้นอยู่กับอาหาร แต่ถ้าลองมองอีกทีว่า มันไม่ได้ขึ้นกับอาหารอย่างเดียว มันขึ้นกับการจัดการด้วย นั้นก็คือระบบการทำงานไงคะ
มันก็เหมือนกับว่ามีสินค้าอยู่ 10 อัน ถ้ามีสินค้าเสียหายอยู่เพียง 1 ชิ้น อะไรจะเป็นข่าวใหญ่กว่ากันคะ? ก็แน่นอนค่ะคงปฎิเสธไม่ได้ว่าเป็นสินค้าที่เสียหาย มันก็เหมือนกันค่ะ ทุกอย่างล้วนเป็นอนิจจัง
ดังนั้นถ้าให้ฉันแนะนำนะคะ ถ้าคุณจะเริ่มธุรกิจเครือข่ายซะตัว อย่ามองเพียงแผนการตลาดเพียงอย่างเดียว เพราะทุกบริษัทย่อมมีแผนการตลาดที่ทำให้คุณอึ้ง!! ค้าง!! อยู่แล้ว อย่างมองเพียงแค่สินค้า ฉันคงปฎิเสธไม่ได้ว่าสินค้าก็มีส่วนเหมือนกัน เพราะฉันเข้าร่วมกับ ็Happy2pays เพราะสินค้าด้วย ให้มองที่ตัวของบริษัทและระบบของทีมงานเป็นหลักสำคัญ!!! ทำไมล่ะค่ะ เพราะถ้าเรามีระบบการทำงานของทีมงานที่ดี ก็ช่วยเป็นแรงผลักให้เราปประสบความสำเร็จเร็วขึ้นกัน ให้คุณลองคิดนะคะ การที่คุณทำงานด้วยตัวคนเดียว กับมีทีมงานทั้งระบบช่วยเป็นแรงผลักให้คุณ อันไหนมันเวิร์ดกว่ากันคะ!!!
สุดท้ายนี้ฉันก็ฝากเรื่องราวของหอยทากหน่อยนะค่ะ เพื่อเป็นแรงใจอีกแรงค่ะ นิทานนี้เป็นนิทานที่ฉันได้ยินตั้งแต่เด็กนะคะ ขอเล่าในฉบับตัวเองล่ะกัน อาจจะคุ้นๆๆหน่อย
กาลครั้งหนึ่งมีหอยทากหลายตัวต้องการไปยังยอดภูเขาแห่งหนึ่ง แต่ในขณะที่ภูเขาลูกนั้นเป็นภูเขาที่สูงมาก ระยะทางที่จะขึ้นไปยังยอดภูเขาลูกนั้น ย่อมเป็นสิ่งที่ยากลำบากสำหรับหอยทากอีกหลายตัว
หอยทากกลุ่มแรก เห็นระยะทางนั้น ก็ถอดใจตั้งแต่แรก คิดแต่เพียงว่า มันไม่มีทางไปถึงยอดเขาหรอก
หอยทากกลุ่มที่สอง เห็นระยะทางนั้นก็ไม่หวั่น พยายามจะกระดืบขึ้นไปให้ได้ แต่ไปไม่ถึงครึ่งทาง ก็เกิดได้ยินเสียงจากหอยทากกลุ่มแรก ว่ากล่าวว่า “ไม่มีทางไปถึงยอดหรอก” หอยทากกลุ่มที่สองนั้นได้ยินก็เริ่มท้อใจ ผสมกับความเหนื่อยที่ตัวเองเจอมา จึงไม่กล้าจะกระตืบออกไป และไม่ไปถึงยอดสักที
หอยตัวสุดท้าย เห็นระยะทางนั้นก็ไม่หวั่น พยายามจะกระดืบขึ้นไปให้ได้ ท่ามกลางเสียงรอบข้างนั้น หอยทากตัวนี้ก็ไม่หวั่น และไม่นำเสียงรอบข้างมามีอิทธิพลต่อตนเท่าไหร่นัก และพยายามวันละเล็กวันละน้อย ทีละเล็ก ทีละน้อย จนในที่สุดก็ถึงยอดเขาจนได้
แล้วคุณอยากเป็นหอยตัวไหนล่ะ?? แน่นอนค่ะไม่มีอะไรได้มาง่าย แต่อยู่ที่ตัวเราค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น